เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำกรุงเวียนนาเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 63
เมื่อวันที่ 2 – 6 มีนาคม 2563 นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติได้เข้าร่วมกิจกรรมระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 63 ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฯ ในฐานะประธานกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวถ้อยแถลงในนามกลุ่มฯ ระหว่างพิธีเปิดการประชุมฯ โดยเน้นว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดยังคงเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาคมระหว่างประเทศ ปัญหาดังกล่าวซับซ้อนขึ้นเนื่องจากมีความเกี่ยวเนื่องกับปัญหาอื่น อาทิ การลักลอบค้ายาเสพติด การทุจริตคอรัปชัน อาชกรรมข้ามชาติในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ อาชญากรรมไซเบอร์และการฟอกเงิน ในบางกรณีเกี่ยวพันถึงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับการก่อการร้ายด้วย ในปีนี้ ประเทศสมาชิกยังต้องพิจารณาข้อเสนอขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนกัญชาและสารที่เกี่ยวกับกัญชาซึ่งมีความซับซ้อน กลุ่มจึงย้ำว่าประเทศสมาชิกต้องพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวอย่างรอบคอบ รอบด้าน มีความรับผิดชอบต่อสังคมและประชาคมระหว่างประเทศ
2. ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฯ เข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนานในหัวข้อความท้าทายต่อบทบาทของการพัฒนาในด้านนโยบายการควบคุมยาเสพติด จัดโดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกับคณะผู้แทนถาวรเปรูประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศเยอรมนี (Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit - GIZ) และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) เพื่อหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างโครงการการพัฒนาทางเลือกที่ยึดคนเป็นศูนย์กลาง ครอบคลุมครบทุกมิติ ในระยะยาว กับแนวทางการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหายาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นพืชเสพติดหรือสารเสพติดสังเคราะห์ ทั้งในบริบทชุมชนเมืองและชนบท โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฯ ได้เป็นวิทยากรร่วมกับเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเยอรมนี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเปรู และผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติงานของ UNODC
3. เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฯ ได้จัดการหารือทวิภาคีระหว่างมูลนิธิโครงการหลวง นำโดย ศ. เกียรติคุณพงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ กรรมการบริหารมูลนิธิฯ ตามคำขอของนาย Juan Francisco Facetti เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรปารากวัยประจำเวียนนา โดยมีนาง Maria Amarilla, Minister, Directorate of Strategic Affairs of the Ministry of Foreign Affairs เข้าร่วมด้วย ซึ่งฝ่ายปารากวัยมีความสนใจที่จะนำแนวทางพัฒนาทางเลือกของไทย ไปปรับใช้เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดของปารากวัย โดยสอบถามถึงการปลูกพืชทดแทน การเลือกชนิดพืช การเข้าถึงตลาด และระบบการบริหารที่ยั่งยืน เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝ่ายไทยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการหลวงตามแนวทางในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชปณิธานมุ่งมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการด้านการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่อไป ทั้งนี้ ไทยได้ยืนยัน ความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือปารากวัยในเรื่องดังกล่า
