- Home
- ข่าวและประกาศ
- กิจกรรมสถานทูต
บทความน่ารู้ เรื่อง พระแสงตรีศูลและพระแสงกระบี่นาคสามเศียร: เครื่องราชอิสริยยศไทยในราชสำนักออสเตรีย
* พระแสงตรีศูลและพระแสงกระบี่นาคสามเศียร: เครื่องราชอิสริยยศไทยในราชสำนักออสเตรีย *
เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๓ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ขอนำเสนอข้อมูลและภาพศิลปวัตถุล้ำค่าจากไทย ๒ รายการ ได้แก่ พระแสงตรีศูลและพระแสงกระบี่นาคสามเศียร ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์ Weltmuseum กรุงเวียนนา เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และเพื่อเชิดชูฝีมืออันประณีตวิเศษของช่างไทย ศิลปวัตถุทั้งสองรายการเป็นพระแสงราชศัสตราวุธอันจัดเป็นเครื่องราชอิสริยยศชั้นสูงซึ่งพระมหากษัตริย์ไทยถวายแด่สมเด็จพระจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซฟ ที่ ๑ แห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี เพื่อทรงผูกสัมพันธ์เจริญพระราชไมตรี
(๑) พระแสงตรีศูล
พระแสงตรีศูลเป็นพระแสงราชศัสตราวุธสำหรับพระเกียรติยศองค์พระมหากษัตริย์ อีกทั้งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของพระบรมราชจักรีวงศ์คู่กับพระแสงจักร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เชิญพระแสงตรีศูลองค์นี้มาถวายแด่สมเด็จพระจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซฟ ที่ ๑ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๑ พร้อมด้วยพระราชสาส์นเจริญพระราชไมตรี ดังมีความตอนหนึ่งว่า “…กรุงสยามทราบว่ากรุงออศเตรียเปนสืบเนื่องมาแต่วงษพระเจ้าแผ่นดินแลพระบรมราชวงษในยุโรปโบราณฤกซึ้งมา สมควรจะทรงรับพระแสงตรีศูล ซึ่งเปนฝีมือช่างอย่างสยามในปัตยุบันนี้ กรุงสยามได้ให้ถ้ายทำเทียบแบบโดยชัดเจนออกจากเครื่องราชอิศริยยศ ซึ่งเปนของโบราณสำหรับพระเจ้าแผ่นดินในทิศตวันออก ได้ทรงใช้แลเปนที่นับถือตามขัตติยจารีตมา ในอินดิยาณาจักรตั้งแต่ในเวทิกสมัย แลเปนเครื่องราชอิศริยยศ อันเปนที่นับถืออยู่ในหมู่อัษฎาวุธ สำหรับพระเจ้าแผ่นดินสยามในปัตยุบันนี้...” (ตัวสะกดตามต้นฉบับ) ดังภาพสำเนาพระราชสาส์นองค์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่เก็บรักษาอยู่ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรียที่ได้เชิญมาแสดงประกอบ ณ ที่นี้
พระแสงตรีศูลองค์นี้ ใบพระขรรค์เป็นเหล็กกล้าคร่ำทอง โคนพระขรรค์องค์กลางประดับตราอาร์มช้างสามเศียรยืนแท่น เหนือตราอาร์มปรากฏตราพระเกี้ยว อันเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เปล่งรัศมีและประดิษฐานบนพานแว่นฟ้า มีราชสีห์และคชสีห์ประคองฉัตร ๗ ชั้นอยู่ซ้ายขวา สองข้างของตราอาร์มเป็นรูปมกรคายต่อเนื่องออกไปยังโคนพระขรรค์องค์ซ้ายและขวา ด้ามหุ้มทองคำลงยาประดับพลอย ปลายสุดเป็นหัวเม็ด พระแสงตรีศูลองค์นี้มีฝักทองคำลงยา ๓ ฝักสำหรับสวมพระขรรค์แต่ละองค์ หีบบรรจุพระแสงตรีศูลเป็นหีบไม้บุกำมะหยี่สีเหลือง ด้านบนหีบประดับตราอาร์มแผ่นดินสยามทำด้วยทองคำสลักลายลงยา พร้อมแผ่นจารึกข้อความว่า “สมเด็จพระประมินทรมหาจุฬาลงกรณ ที่ ๑ พระจุลจอมเกล้า เจ้ากรุงสยาม ฯลฯ ทรงยินดีมาใน สมเด็จพระเจ้าราชาธิราชฟรานซิศ โยเสฟ ที่ ๑ พระเจ้ากรุงออศเตรีย ฯลฯ”
(๒) พระแสงกระบี่นาคสามเศียร
สันนิษฐานว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงถวายพระแสงกระบี่องค์นี้แด่สมเด็จพระจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซฟ ที่ ๑ เพื่อเป็นที่ระลึกในคราวเสด็จพระราชดำเนินเยือนกรุงเวียนนาอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๐ หรือมิเช่นนั้น ก็อาจเป็นของระลึกในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินเยือนกรุงเวียนนาอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๕
พระแสงกระบี่ดังกล่าว ใบกระบี่เป็นเหล็กกล้า สันคร่ำทองและปรุลาย ฝักกระบี่เป็นทองคำสลักลายลงยาประดับเพชรเป็นเถาพรรณพฤกษา บนฝักด้านหนึ่งปรากฏตราอาร์มแผ่นดินสยามพร้อมด้วยเครื่องอัษฎาวุธกับเครื่องพิชัยสงคราม บนฝักอีกด้านหนึ่งปรากฏยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ พร้อมด้วยสิ่งมงคล ๘ ประการตามคติพราหมณ์ ได้แก่ หม้อน้ำ สังข์ อุณหิส ธงสามชาย โคอุสุภราช ขอสับช้าง คทา และจักร ด้ามกระบี่เป็นลำตัวนาคและหัวกระบี่เป็นเศียรนาคสามเศียรลงยาประดับเพชร โดยเศียรข้างขนาดย่อมกว่าเศียรกลาง โกร่งกระบี่ปรุลายฉลุลงยาประดับเพชรเป็นเถาพรรณพฤกษา มีพระตราจักรีและตราอาร์มประจำพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ประดับอยู่บนโกร่งด้านที่ติดกับใบกระบี่
ทั้งนี้ ท่านที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สัมพันธไมตรีระหว่างไทย-ออสเตรีย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือที่ระลึก “จากเจ้าพระยาสู่ดานูบ: ๑๕๐ ปี สัมพันธไมตรีไทย-ออสเตรีย” ทางลิงค์ https://thaiembassy.at/th/news/11-general-news/668-150.html
หมายเหตุ: (๑) ภาพถ่ายศิลปวัตถุโดยพิพิธภัณฑ์ Weltmuseum กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ห้ามนำไปใช้ในทางการค้าโดยมิได้รับอนุญาตจากพิพิธภัณฑ์ (๒) ขณะนี้ พิพิธภัณฑ์เก็บรักษาศิลปวัตถุทั้งสองรายการไว้ในคลัง มิได้จัดแสดงในนิทรรศการถาวร