The 55th Anniversary of Thailand-Austria Diplomatic Relations

สถาน เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ได้จัดงานฉลองครบรอบ 55 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ออสเตรีย ขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2551 ณ Wiener Konzerthaus ซึ่งเป็นโรงละครที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของกรุงเวียนนา มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 คน 

โดย ที่ปีนี้เป็นปีส่งเสริมวัฒนธรรมในยุโรป สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้คัดสรรการแสดงทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้งไทยและออสเตรียมา แสดงในงาน โดยตัวแทนฝ่ายไทย คือ "การแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์" เพื่อให้ชาวออสเตรียและชาวต่างชาติได้เห็นศิลปะวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์และมี ชื่อเสียงได้รับการยอมรับในระดับสากลของไทย และในส่วนของออสเตรีย ชุดการแสดง “Austria-Thailand Friendship Concert” ด้วยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยการดนตรีแห่งกรุงเวียนนา ซึ่งเป็นสถาบันการดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดของออสเตรียและที่สุดแห่งหนึ่ง ของโลก เพื่อนำเสนอบทเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงออสเตรีย ซึ่งเมื่อผนวกการแสดงสองชุดเข้าด้วยกันนับว่าเป็นความผสมผสานทางวัฒนธรรมที่ ลงตัวเป็นอย่างมาก

ภาย หลังจากที่นายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ ยาวนานและเป็นมิตรโดยมีความผูกพันที่ใกล้ชิดระหว่างประชาชนสองฝ่ายเป็นราก ฐานของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของสองประเทศแล้ว การแสดงของคณะหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ได้เปิดการแสดงขึ้น สร้างความหรรษาและความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน เป็นอย่างมาก ผู้ชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างเข้ามามีส่วนร่วมและสนุกไปกับลีลาและลูกเล่นของ ผู้แสดงและการแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ครั้งแรกในออสเตรีย

การ แสดงต่อเนื่องด้วย Austria - Thailand Friendship Concert บรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ อันประกอบด้วย March Rajavallop, Love at Sundown, Dream of Love Dream of You, Lullaby และ Somewhere Somehow ซึ่งอัญเชิญมาเรียบเรียงเสียงประสานใหม่และบรรเลงสลับกับบทเพลงที่โด่งดัง ของนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงของออสเตรียในรูปแบบดนตรีแนวแจ๊ส ผู้ชมกว่า 300 คน ต่างดื่มด่ำกับบรรยากาศและอารมณ์เพลง ซึ่งนอกจากความประทับใจที่เกิดขึ้น แล้ว กลุ่มผู้ชมชาวต่างชาติยังได้ประจักษ์ในพระราชอัจฉริยะภาพด้านการดนตรีอย่าง แท้จริงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้รับการทูลเกล้าฯ จากมหาวิทยาลัยการดนตรีแห่งนี้ให้ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ ลำดับที่ 23 และครั้งนี้ยังถือเป็นวาระพิเศษที่บทเพลงของสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสถาบันฯ ได้รับการบรรเลงและถ่ายทอดโดยนักดนตรีที่มีความสามารถของสถาบันฯ เอง จึงยิ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มคุณค่าเชิงดนตรี ซึ่งผู้ชมต่างก็มอบเสียงปรบมือ อย่างไม่ขาดสายตลอดการแสดง 50 นาที

แม้ เป้าหมายหลักของการจัดงานในครั้งนี้จะเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมและภาพลักษณ์ที่ ดีของไทยในออสเตรีย แต่ผลพลอยได้อีกด้านหนึ่งที่ก่อให้เกิดผลดีต่อชุมชนไทย คือ ความรู้สึกภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทยที่มีประวัติศาสตร์และมี สถานะทัดเทียมกับนานาประเทศ งานครั้งนี้ปิดลงด้วยปลาบปลื้มใจของผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และทุกคนรอคอยที่จะได้มีโอกาสร่วมงานที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จัดขึ้นอีกใน อนาคต